Real estate & condomanager community

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ลูกบ้านคอนโด : ลูกบ้านสูงวัย หัวใจละอ่อน (ยก1)

ครับ หัวใจละอ่อน ไม่ใช่หัวใจสะออนของ พี่ป้อม อัสนี-วสันต์ แน่นอน คำว่าละอ่อนเป็นภาษาทางภาคเหนือครับ แปลว่า เด็ก หมายถึงเด็กเล็ก ที่พูดยังไม่ค่อยเข้าใจเหตุผล จะเอาอะไรก็จะเอาให้ได้ดังใจตนเองประมาณนั้น ลูกบ้านท่านนี้ของผมก็เหมือนกันครับ เป็นสุภาพสตรี อายุอานามก็ร่วม 50 กว่าๆ แล้วครับ แต่พฤติกรรมเหมือนเด็กยังไงยังงั้น

ครั้งแรกที่ผมพบสุภาพสตรีท่านนี้ เป็นการพบกันทางโทรศัพท์ครับ ประโยคแรกที่ she โทรมาหาผม she บอกว่า “ นี่คุณผู้จัดการ พี่ชื่อ....นะ พี่อยู่ห้อง..... ( เลขที่ห้อง ) พี่จะติดจาน ASTV นะ พี่โทรมาแจ้งคุณตามขั้นตอนแล้วนะ คุณต้องอนุญาตให้พี่ติดนะ ถ้าคุณไม่ให้พี่ติดพี่ไม่ยอมนะ เพราะห้องคนอื่นเขาติดจานแดง ( หมายถึงจานของ true vision ) กันโครมๆ คุณยังอนุญาตให้ติด แล้วพี่จะติดคุณต้องอนุญาตพี่นะ ไม่งั้นพี่ไม่ยอม ”

ผมคิดในใจ งานเข้าอีกแล้วซิเรา นี่ตกลงโทรมาแจ้งขออนุญาตหรือโทรมาบีบบังคับกันแน่ ผมตอบว่า ผมรับทราบครับ แต่มีเรื่องจะแจ้งให้คุณพี่ทราบเหมือนกันครับ คือจานแดงที่ติดกันโครมๆที่พี่ว่าน่ะ ผิดข้อบังคับทั้งนั้นนะครับ ผมกำลังคุยกับกรรมการอยู่ว่า จะออกประกาศให้ลูกบ้านทราบ เพื่อขอความร่วมมือให้ถอดออก ตอนนี้ใครมาขออนุญาตติดตั้งจานดาวเทียมบริเวณระเบียง คอนโดเราไม่อนุญาตให้ติดแล้วนะครับ เพราะฉะนั้น จาน ASTV ของคุณพี่ก็คงติดไม่ได้เหมือนกันครับ

She ตอบว่า อะไรกัน เขาติดกันมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมีใครห้าม ไม่เห็นมีใครว่าผิดระเบียบ แล้วทำไมพอคุณมา ก็มีคุณนี่แหละที่ว่าผิดระเบียบ แล้วก็มาบอกว่าผิดระเบียบตอนที่พี่จะติดจาน ASTV พอดี แบบนี้มันหมายความว่ายังไง

เอาซิครับ ท่านผู้ชม นี่แค่ยกแรกนะครับ จะให้ผมทำยังไงดี ?

ผมก็ต้องชี้แจงว่า คุณพี่ฟังผมอธิบายก่อนนะครับ ข้อบังคับที่ว่าห้ามติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียมบริเวณระเบียงห้องมันมีมาตั้งนานแล้วครับ ก่อนผมจะมารับงานที่นี่เป็น 10 กว่าปีแล้ว ผมเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่า เขาติดกันได้อย่างไร ทำไมถึงติด

คือสรุปว่าอย่างนี้ครับ ( อันนี้ผมพูดกับท่านผู้อ่านแล้วนะครับ ) ที่คอนโดหลังนี้มีระบบทีวีเสาอากาศรวม แต่เป็นเทคโนโลยีแบบเก่า คือเป็นเสาอากาศแบบก้างปลา ซ้อนกันหลายๆอันเพื่อรับสัญญาณฟรีทีวีจากช่องต่างๆแล้วขยายส่งสัญาณไปตามสายเคเบิ้ลภายในอาคาร ไปยังห้องทุกห้องในคอนโด แล้วก็มีอีกระบบหนึ่งเป็นทางเลือกให้ลูกบ้าน คือระบบสายเคเบิ้ลใยแก้ว ( Fiber optic ) ที่บริษัท True เขามาวางระบบไว้ร่วมกับคอนโด เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว

ปัญหาของลูกบ้านที่ติดจานแดงแยกได้เป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกอยากดูฟรีทีวี แต่ระบบทีวีเสาอากาศรวมของคอนโด ไม่สนับสนุน คือ คุณภาพไม่ดีพอ รับภาพไม่ชัด ลูกบ้านก็เลยไปซื้อจานแดงของ True vision มาติด เพื่อดูฟรีทีวี กลุ่มที่ 2 คืออยากดูเคเบิ้ลทีวี โดยยินดีที่จะเสียค่าสมาชิกรายเดือน แต่ไม่ทราบว่า คอนโดมีระบบ Fiber optic ผมก็เคยถามลูกบ้านกลุ่มนี้ว่า ทำไมไม่เลือกเป็นสมาชิกระบบ Fiber optic ส่วนใหญ่ตอบว่า ไม่รู้ ผู้บริหารคอนโดชุดก่อนหน้านั้น ก็ไม่เห็นมีใครบอกว่า มี Fiber optic แล้วขออนุญาตเขาติด เขาก็ให้ติด ไม่เห็นมีใครว่าอะไร เวรกรรมตามเคย ท่านผู้ชม !

ทีนี้ผมเคยคุยกับกรรมการแล้วว่า ถ้าเราจะ ” สอยดาวเทียม ” ( เป็นศัพท์เฉพาะของผม หมายถึง ขอความร่วมมือแกมบังคับจากลูกบ้านให้ถอดจานรับสัญญาณดาวเทียมออก ) คงจะต้องมีทางออกให้กับลูกบ้านด้วยว่า ถ้าท่านถอดจานออกแล้ว ท่านสามารถเลือกชมรายการทีวีได้โดยวิธีไหนบ้าง กลุ่มที่มีกำลังซื้อ ที่จะดูเคเบิ้ลทีวีไม่น่าจะยาก เพราะคอนโดมีระบบ Fiber optic รองรับอยู่แล้ว

อีกอย่างเท่าที่ผมสังเกตดุระหว่างที่ผมทำหน้าที่ มีลูกบ้านที่ไม่ทราบว่ามี ระบบ fiber optic พอเขามาขออนุญาตให้ช่างขึ้นติดจานดาวเทียม ผมก็บล็อคช่างไม่ให้ขึ้น แล้วก็โทรแจ้งลูกบ้านว่า ขอให้เปลี่ยนมาเป็นระบบ fiber optic ดีกว่า เพราะจานดาวเทียมห้องอื่นที่ติดๆอยู่ ผิดระเบียบทั้งนั้น กรรมการคอนโดเขากำลังหาวิธีให้เอาออกอยู่ ซึ่งทุกท่านพอเข้าใจก็ให้ความร่วมมือด้วยดี

แต่ลูกบ้านอีกกลุ่มนี่ซิ การที่เขาซื้อจานแดงมาติด ( จริงๆแล้วอาจไม่ได้ซื้อก็ได้ เพราะช่วงนั้น True เขามีโปรโมชั่น ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน 300 บาท แล้วรับติดตั้งจาน True vision ฟรี อะไรประมาณนั้น ) เพื่อต้องการดูฟรีทีวี แสดงให้ถึงข้อจำกัดอะไรบางอย่าง ซึ่งคงหนีไม่พ้นเรื่องกำลังซื้อ แล้วทีนี้ถ้าบังคับให้เขาเอาออกแล้ว จะให้เขาทำอย่างไร สัญญาณฟรีทีวีของคอนโดก็ไม่มีคุณภาพ จะสมัครเป็นสมาชิกเคเบิ้ลทีวีก็เกินกำลัง รับรองได้เกิดความโกลาหลกันแน่นอน

ผมก็เลยมอบหมายให้ช่างอาคารติดต่อบริษัท ผู้เชี่ยวชาญให้ลองเข้ามาสำรวจ เพื่อหาแนวทางปรับปรุงสัญญาณภาพฟรีทีวีให้ชัดเจนก่อน ว่าจะต้องใช้งบประมาณเท่าไร สรุปว่า ระบบทีวีเสาอากาศรวมของคอนโดที่มีอยู่ถ้าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นต้องใช้งบประมาณเรือนหมื่น แต่ผู้เชี่ยวชาญเขาบอกว่า ปรับปรุงได้ดีที่สุด ก็ไม่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก ( ตกลงมันดีหรือไม่ดีกันแน่ ? ) แต่ถ้าจะให้ดีขึ้นแบบเห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจน แล้วก็เป็นระบบที่ถือว่า เป็นสากลในปัจจุบันเลยก็คือต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบรับสัญญาณภาพด้วยจานดาวเทียม ( ภาษาเทคนิด เขาเรียกว่า ระบบ S-Band ) ซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นเรือนแสน เฮ้อ ! เอาอีกแล้ว คุยเรื่องใช้เงินทีไร ( สำหรับคอนโดหลังนี้ ) รู้สึกปวดหัวตัวร้อน ครั่นเนื้อครั่นตัวทุกที !

ผมวิเคราะห์แล้วก็สรุปได้โดยตนเองเลยว่า มีทางเดียวคือต้องเอาเรื่องงบปรับปรุงระบบทีวีจากเดิมเป็น ระบบ S-Band เข้าขออนุมัติในที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม เพื่อเรียกเก็บเงินเพิ่มตามอัตราส่วนกรรมสิทธิ์มาปรับปรุง ( ถ้าได้ ) หลังจากนั้นถึงมาจัดการ “สอยดาวเทียม” กัน

ถ้าไม่ทำแบบนี้จะชวนให้มีคำถามตามมา เช่น เราขอความร่วมมือจากกลุ่มดูเคเบิ้ลทีวี ถ้าเจอคนที่ให้ความร่วมมือก็ดีไป แต่ถ้ามีพวกงอแง ประเภทว่า ให้ห้องอื่นถอดก่อนซิ แล้วฉันถึงจะถอด หรือสมมุติว่า กลุ่มเคเบิ้ลทีวีให้ความร่วมมือด้วยดีทุกท่าน ต่อมาปรากฏว่า ยังเห็นจานดาวเทียมของกลุ่มฟรีทีวีอยู่ ก็จะถามว่า พวกนี้ทำไมไม่ถอด ฉันถอดเขาก็ต้องถอดซิ ไหนคุณบอกว่าผิดระเบียบไง จะต้องมานั่งอธิบายเรื่องคุณภาพของสัญญาณฟรีทีวี เรื่องงบปรับปรุงอีก เผลอๆ พอรู้แล้วอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ว่า ฉันเสียเงินจ่ายค่ารายเดือนเพื่อดูเคเบิ้ลทีวีของฉันแล้ว ทำไมฉันต้องมาจ่ายเงินสมทบเพื่อให้คนอื่นดูฟรีทีวีอีก ฉันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แค่คิดก็มึนแล้วครับ ท่านผู้ชม !

หลายท่านอาจคิดว่า ทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนั้น สัญญาณฟรีทีวีไม่ดี ให้ลูกบ้านใช้เสาหนวดกุ้งแทนก็หมดเรื่อง อาจจะจริงครับ แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องของ image และ impression ของลูกบ้านที่มีต่อคอนโดครับ ลองคิดดูถ้าเป็นท่าน ท่านซื้อคอนโดราคายูนิตละเป็นล้าน ท่านคาดหวังอะไรบ้างครับ ผมเชื่อว่าท่านคงไม่คาดหวังและพึงพอใจกับการที่จะต้องมานั่งดูฟรีทีวีด้วยเสาหนวดกุ้งอย่างแน่นอน หรือท่านอาจจะมีกำลังที่จะเป็นสมาชิกเคเบิ้ลทีวี แต่ถ้ามีทางเลือกที่เสียเงินกับไม่เสียเงิน ผมว่าเกือบทุกท่านต้องเลือกที่จะไม่ต้องเสียเงินมากกว่า มีอย่างที่ไหน ซื้อคอนโดห้องละเป็นล้าน อยากดูทีวีก็ดูไม่ได้ ( หมายถึงสัญญาณไม่มีคุณภาพ ) ต้องใช้เสาหนวดกุ้ง เสียราคาคอนโดหมด แถมถ้าอยากดูทีวีคุณภาพดีๆ ต้องเสียตังค์รายเดือนอีก เซ็ง ! ( อันหลังนี้ผมพูดแทน )

แล้วคนเรา พอรู้สึกไม่ประทับใจเมื่อแรกพบเมื่อไรแล้วละก็ จะเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีติดตัวไปอีกนาน เผลอๆอาจจะตลอดชีวิตที่อยู่ในคอนโดเลยก็ได้ แล้วคนที่อาจจะโดนลูกหลงโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก็คือผู้จัดการคอนโดไงครับ ประมาณว่า ผู้จัดการคนแล้วคนเล่า ไม่เห็นแก้ปัญหาได้ซักคน ไม่รู้เสียเงินจ้างมาทำไม (แบบนี้เขาเรียกว่า โดนครับ แต่เปล่าโดนใจ โดนลูกหลงครับ )

ทั้งหมดที่สรุปให้ท่านฟังมา ก็คือสิ่งที่ผมได้เพียรพยายามอธิบายให้ลูกบ้านท่านนี้ทราบ ซึ่ง she ก็รับฟังนะครับ แต่ก็ยังไม่วายที่จะพูดในทำนองว่า พี่ไม่รู้ละ พี่ต้องการดู ASTV คุณทำอย่างไรก็ได้ ให้พี่ได้ดูก็แล้วกัน ผมบอกว่า ถ้าคุณพี่ติดตั้งจานดาวเทียมภายในพื้นที่ห้องชุดของคุณพี่ โดยไม่ปรากฏให้เห็นบริเวณระเบียงห้องชุดก็ได้เลย she บอกว่า ช่างเขามาทดสอบแล้ว ติดตั้งในห้องสัญญาณไม่ชัดต้องติดที่ระเบียง ผมแนะนำว่า คุณพี่ทำไมไม่ดูผ่านระบบอินเตอร์เน็ตละครับ ตึกของเรามีระบบอินเตอร์เน็ต คุณพี่ขอติดตั้งอินเตอร์เน็ต ของ True ก็มี she บอก ไม่เอา พี่ไม่ต้องการเสียค่ารายเดือน

ผมเลยตัดบทว่า ถ้างั้นมีทางเดียวคือ คุณพี่อาจต้องติดตั้งจานของคุณพี่บนดาดฟ้าก็ได้ แต่ผมขอเอาเรื่องนี้เข้าปรึกษากรรมการคอนโดในที่ประชุมก่อนก็แล้วกัน เพราะดาดฟ้าเป็นพื้นที่ส่วนกลาง แล้วได้ผลว่าอย่างไร ผมจะแจ้งให้คุณพี่ทราบ she ถามว่า นานมั๊ย เมื่อไรจะได้คำตอบ ผมก็บอก ปกติคอนโดเรามีประชุมกรรมการเดือนละครั้งครับ ประมาณปลายๆ เดือน แหละครับคุณพี่ she บอกว่า ได้ แล้วเดี๋ยวปลายๆ เดือนพี่จะโทรมาถามคุณเอง ( โอ้โฮ ! เจอแฟนพันธ์แท้เสื้อเหลืองเข้าแล้วมั๊ยล่ะ ! )

เหตุที่ผมต้องตัดบทไปแบบนั้น เพราะจากการที่ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบทีวี เขาบอกว่า ระบบ S-Band สามารถเพิ่มจานรับสัญญาณดาวเทียมของระบบอื่นๆ หรือของต่างประเทศ เข้ามาได้ในอนาคต แต่การจัดทำระบบ S-Band ต้องไปขอเงินจากที่ประชุมใหญ่อย่างที่ว่า ผมก็เลยพูดว่าจะเอาเรื่องของคุณพี่เขาไปขอมติจากที่ประชุมกรรมการ แต่ในความเป็นจริง ยังนำเข้าที่ประชุมไม่ได้ เพราะเข้าไปก็ไม่ผ่าน เนื่องจากยังไม่มี ระบบ S-Band มารองรับ ผมพูดเพื่อให้คุณพี่เขาลดความขัดแย้งกับผมลงในเบื้องต้นก่อน

แล้วเดือนนั้นคณะกรรมการเขาก็เลื่อนการประชุม ( อันนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆในคอนโดหลังนี้ ) she ก็มาตามนัดเลยครับ โทรมาถามผลการประชุมกับผม ผมก็บอกตามความจริงว่า กรรมการเลื่อนประชุม she พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ อะไรกัน กรรมการประชุมกันเดือนละหน แล้วมาเลื่อนออกไปแบบนี้ งานการของคอนโดก็ไม่เดินนะซิ ผมก็บอก ครับ เขาก็เลื่อนกันบ่อยๆครับ เพราะกรรมการเขาทำงานไม่มีเงินเดือน แล้วแต่ละท่านก็มีหน้าที่การงานประจำที่ต้องรับผิดชอบอยู่ หลายท่านมาไม่ได้ ไม่ครบองค์ประชุมก็ประชุมไม่ได้ครับ she ถามว่า แล้วจะประชุมอีกทีเมื่อไร ผมตอบ ก็คงประมาณปลายๆเดือนหน้าครับ she บอก เดี๋ยวปลายเดือนหน้า พี่จะโทรมาถามคุณอีกที ( เอาจริงแฮะ ! )

แล้วปลายเดือนหน้าก็มาถึง พอ she โทรมาถามปุ๊บ ผมก็ออกแนวประมาณว่า กรรมการให้ผมคุยกับ ASTV ก่อนว่า ถ้าจะติดตั้งบนดาดฟ้าแล้ว ในทางเทคนิคต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้าคุยแล้วเป็นไปได้ ก็อาจพิจารณาอนุมัติให้ติดตั้งได้ คุณพี่ให้ช่าง ASTV โทรหาผมหน่อยนะครับ

ทั้งหมดนี้ ท่านคงพอเข้าใจนะครับว่า จริงๆแล้วผมไม่ได้นำเสนอต่อที่ประชุมด้วยซ้ำไป โดยเหตุผลที่ผมกล่าวไว้แล้วคือ มันทำไม่ได้ จะติดตั้งเฉพาะจานของ she โดยที่ไม่มีระบบ S-Band มารองรับ เสนอไปก็ไม่ผ่าน เพราะกฎหมายคอนโดฉบับปัจจุบัน ค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องการนำพื้นที่ส่วนกลางไปใช้ประโยชน์ โดยไม่ผ่านมติที่ประชุมใหญ่ ด้วยคะแนนเสียงตามที่กฎหมายกำหนด

ถ้าผมจะนำเสนอเข้าที่ประชุมกรรมการ แล้วแน่นอนว่ากรรมการจะไม่อนุมัติ ก็เหมือนกับไปดับความฝัน ความหวังของ she มากเกินไป แต่ถ้าผมอธิบายให้ she ฟังว่า ผมจะขอมติที่ประชุมใหญ่เพื่อเอาเงินมาปรับปรุงระบบทีวีของคอนโด แล้วถึงจะเชื่อมจานของคุณพี่เข้าด้วยกัน ผมรับรองได้เลยว่า she จะไม่ฟัง เพราะ จากการที่ได้สัมผัส ( พูดคุย ) กับ she ทางโทรศัพท์ she เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเหตุผล จะเอาให้ได้ดังใจตนเอง และที่สำคัญคือ she จะเอาเดี๋ยวนี้ !

หลังจากที่ช่างของ ASTV โทรมาคุยกับผมแล้ว she ก็โทรมาตามผล ผมก็บอกว่า จะเอารายละเอียดข้อมูลเชิงเทคนิคเข้าที่ประชุมกับกรรมการ เพื่อขออนุมัติขั้นสุดท้าย แล้วจะแจ้งผลให้เดือนหน้า เหมือนเดิมครับ ความจริงผมก็ไม่ได้นำเข้าที่ประชุมกรรมการ ผมกะว่ารอจนกว่าจะมีการประชุมใหญ่แล้วได้มติที่แน่นอนแล้วผมถึงจะคุยกับ she ให้เป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้ คือได้ก็บอกได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ แล้วอีกอย่างคือ การที่ผมลากเรื่องให้มันยาวออกไปเรื่อยๆแบบนี้ ผมคิดว่า she คงจะเบื่อและท้อ แล้วก็คงจะเลิกราไปเอง

แต่ที่ไหนได้ she เป็นแฟนพันธ์แท้นี่ครับ ปลายเดือนนั้น หลังจากประชุมไม่กี่วัน she ก็โทรมาตามผลอีก ผมคิดว่า คงต้องหาเหตุผลอะไรซักอย่าง ถึงจะต้องดับความฝันของใครบางคนก็จำเป็นต้องทำ เพื่อให้เรื่องมันยุติเสียที ผมจึงบอกไปว่า กรรมการอนุมัติในหลักการนะครับ แต่จะขอคุยเรื่องค่าใช้จ่ายกับ ASTV อีกครั้ง ถ้าเขารับเงื่อนไขของคอนโดได้ ก็ไม่มีปัญหา she ก็ให้ ASTV โทรมาหาผมอีก ผมก็คุยกับเขาว่า กรรมการขอคิดค่าติดตั้งจานดาวเทียมบนดาดฟ้า เดือนละเท่านี้บาท คิดค่าลากสายผ่านพื้นที่ส่วนกลางจากดาดฟ้าอีกเดือนละเท่านั้นบาท ถ้าคุณโอเค ก็ทำเรื่องขออนุญาตเข้ามา ผมจะนำเสนอให้

แล้วก็เป็นไปอย่างที่ผมคาดเดา คือ ASTV เขาก็แจ้งที่จะชาร์ตค่าใช้จ่ายที่ว่ากับ she เท่านั้นแหละครับ she ก็โทรมาหาผมด้วยความโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ พูดว่า อะไรกัน ฉันเสียค่าส่วนกลางให้คุณทุกเดือน แล้วคุณยังมาคิดค่าติดตั้งจานดาวเทียม ค่าลากสายผ่านส่วนกลางจากฉันอีก ทำแบบนี้ได้ยังไง ผมก็ตอบว่า ผมไม่ได้เรียกเก็บจากคุณพี่นะครับ ผมเรียกเก็บจาก ASTV ครับ she บอก ก็นั่นแหละ เขาก็มาเรียกเก็บต่อจากฉัน ผมก็บอกว่า งั้นคุณพี่ก็ต้องไปต่อว่า ASTV ซิครับ คุณพี่มาต่อว่าผมทำไม

She บอกว่า ฉันจะต่อว่าคุณนี่แหละ ฉันจ่ายค่าส่วนกลางให้คอนโดทุกเดือนไม่เคยขาด ฉันจะขอติดตั้งจานดาวเทียมก็มาตั้งเงื่อนไขอย่างโน้นอย่างนี้กับฉัน พื้นที่ส่วนกลางไม่ใช่พื้นที่ของคุณ ทำไมคุณถึงมีสิทธิ์มาเรียกเก็บเงิน ผมตอบว่า จริงอยู่ครับคุณพี่ พื้นที่ส่วนกลางไม่ใช่ของผม แต่ก็ไม่ใช่ของคุณพี่เหมือนกันครับ she ตอบว่า ถึงจะไม่ใช่ของฉัน แต่ฉันก็จ่ายค่าส่วนกลางทุกเดือน เพราะฉะนั้นฉันต้องมีสิทธิ์ใช้ ( เกี่ยวกันไหมเนี่ย! )

ผมบอกไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณพี่คิดว่าคุณพี่มีสิทธิ์ใช้ คุณพี่จะใช้ก็ตามใจครับ แต่คุณพี่ลองคิดให้ดีนะครับ ถ้าคุณพี่เรียกช่าง ASTV มาติดจานดาวเทียมเมื่อไร ผมจะเรียกเก็บเงินค่าติดตั้ง ค่าลากสายตามมติกรรมการก่อนนะครับ ถ้าช่างไม่จ่ายผมก็ไม่อนุญาตให้ขึ้นอาคารนะครับ she เงียบไปซักครู่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียง งอนๆ ว่า ฉันไม่เอาละ ฉันไม่ติด ไม่ดูก็ได้ ผมบอก ก็แล้วแต่คุณพี่นะครับ แล้ว she ก็วางสายไป ( แล้วผมก็แอบถอนหายใจ เฮ้ออออ ! ) จบยกที่หนึ่ง ( โปรดติดตามยกสอง ในตอนต่อไป )

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ่านแล้วได้ความรู้ดีอยากอ่านตอนจบว่าเป็นอย่างไร

ohoaha1981 กล่าวว่า...

เรื่องจานแดงก็ปัญหาเหมือนกัน ทางกรรมการตกลงกันว่าให้ใช้จานแดงกลาง ซึ่งตอนประชุมลูกบ้านก็เห็นร่วมกัน แต่ดั๊นมาติดปัญหาที่คุณจานแดงเขาขอให้มีสมาชิกใหม่เพิ่ม 7 รายแต่เป็น 7 รายที่หายากเย็นมากเลยค่ะ(ได้ 4 รายเอง) ดิฉันเองไม่ใช่ 1 ใน 4 นั้นหรอกนะคะ เพราะดิฉันเน้นดู dvd เอามากกว่า
รออ่านตอนถัดไป

dreambox กล่าวว่า...

คอนโดที่ผมอยู่เค้าห้ามติดจานแดงอะ ไม่ชอบเลย